ทิศนา แขมมณี (2555:45-46) กล่าวว่า ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง (Mental Discipline) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา (mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก
เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข้งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
(Bigge, 1964: 19-30)
1. กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic Mental
Discipline) นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ
เซนต์ออกุสติน (St.Augustine) จอห์น คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน โวล์ฟ (Christian
Wolff) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ
ดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว
และการกระทำใด ๆ ของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายในตัวของ
มนุษย์เอง (bad-active)
2.
มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการสั่งสอนอบรม
3.
สมองมนุษย์นั้นแบ่งออกเป็นส่วน ๆ (faculties) ซึ่งหากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้เกิดความเข้มแข็ง
สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้
4.
การฝึกสมอง
หรือฝึกระเบียบวินัยของจิตเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด
5.
การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด
ต้องใช้วิชาที่ยากเช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาลติน ภาษากรีก
และคัมภีร์ไบเบิล เป็นต้น
2.
ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมี่เหตุมีผลของมนุษย์ (Humanistic Mental
Discipline)
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ พลาโต (plato) และอริสโตเติล
(Aristotle) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.
พัฒนาการในเรื่องต่าง ๆ เป็นความสามารถของมนุษย์ มิใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด
2.
มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลว และการกระทำของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายใน (neutral-active)
3.
มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง
มนุษย์มีอิสระที่จะเลือกทำความเข้าใจและหาเหตุผลของตน
หากได้รับการฝึกฝนอบรมก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพที่ติดตัวมามนุษย์มีความรู้ตั้งแต่เกิด
แต่ถ้าขาด การกระตุ้นความรู้จะไม่แสดงออกมา
ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ(http://www.learners.in.th/blog/natchakan/386486) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา(mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ
ยิ่งยากมากเท่าไร
จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา
http://www.neric-club.com/data.php?page=3&menu_id=97 ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า
จิตหรือสมองหรือสติปัญญา(mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก
ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร
จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้ โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา วิธีการสอนแบบโสเครติส(Socratic
Method) และวิธีการสอนแบบบรรยาย
(Didactic Method) เป็นวิธีการสอนตามทฤษฏีนี้ที่ใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัวผู้เรียนออกมาให้
กระจ่างชัดและช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน
ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
สรุป
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการฝึกจิตหรือสมอง
(Mental
Discipline) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า จิตหรือสมองหรือสติปัญญา(mind) สามารถพัฒนาให้ปราดเปรื่องได้โดยการฝึก
เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อซึ่งจะแข้งแรงได้ด้วยการฝึกออกกำลังกาย
ในการฝึกจิตหรือสมองนี้ทำได้โดยให้บุคคลเรียนรู้สิ่งที่ยากๆ ยิ่งยากมากเท่าไร
จิตก็จะได้รับการฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
นักคิดกลุ่มนี้มีแนวคิดออกเป็น
2 กลุ่มย่อย คือ
1
กลุ่มที่เชื่อในพระเจ้า (Theistic Mental Discipline) นักคิดที่สำคัญของกลุ่มนี้คือ
เซนต์ออกุสติน (St.Augustine) จอห์น คาลวิน (John Calvin) และคริสเตียน โวล์ฟ (Christian
Wolff) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อ
ดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
-
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความชั่ว
และการกระทำต่างๆของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายในตัวของมนุษย์เอง
-
มนุษย์พร้อมที่จะทำความชั่วหากไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ถูกต้อง
-สมองของมนุษย์สามารถฝึกได้
ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสมอง หรือฝึกระเบียบวินัยของจิต ซึ่งหากได้รับการฝึก
อย่างเหมาะสมจะช่วยทำให้มนุษย์เป็นคนดีและฉลาด เกิดความเข้มแข็ง สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้
-
การฝึกฝนสมองให้รู้จักคิด
ต้องใช้วิชาที่ยากเช่น วิชาคณิตศาสตร์ ปรัชญา ภาษาลติน ภาษากรีก
และคัมภีร์ไบเบิล เป็นต้น
2
ทฤษฎีของกลุ่มที่เชื่อในความมี่เหตุมีผลของมนุษย์ (Humanistic Mental
Discipline)
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ พลาโต (plato) และอริสโตเติล
(Aristotle) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
- พัฒนาการในเรื่องต่าง ๆ
เป็นความสามารถของมนุษย์ มิใช่พระเจ้าบันดาลให้เกิด
- มนุษย์เกิดมามีลักษณะไม่ดีไม่เลว การกระทำของมนุษย์เกิดจากแรงกระตุ้นภายใน (neutral-active)
-
มนุษย์เป็นผู้มีเหตุผลพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง หากได้รับการฝึกฝนอบรมก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพ
ที่ติดตัวมา มนุษย์มีความรู้ตั้งแต่เกิด
แต่ถ้าขาด การกระตุ้นความรู้จะไม่แสดงออกมา
หลักการในการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้เน้นการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้ โดยการกระตุ้นความรู้ในตัวผู้เรียนให้แสดงออกมา วิธีการสอนแบบโสเครติส(SocraticMethod)และวิธีการสอนแบบบรรยาย(Didactic Method)เป็นวิธีการสอนตามทฤษฏีนี้ที่ใช้คำถามเพื่อดึงความรู้ในตัวผู้เรียนออกมาให้ กระจ่างชัดและช่วยเพิ่มเติมประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียน
ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียน รู้ได้ดี
อ้างอิง
ทิศนา แขมมณี.
(2553). การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้
เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัด
กระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 13). กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ณัชชากัญญ์ วิรัตนชัยวรรณ. ทฤษฎีการเรียนรู้. [ ออนไลน์]. เข้าถึงจาก :
http://www.learners.in.th/blog/natchakan/386486. [2556, 10 กรกฏาคม].
ทฤษฎีการเรียนรู้. [ ออนไลน์].
เข้าถึงจาก : http://www.neric-club.com/data.php?page=3&menu_id=97 .
[2556, 10 กรกฏาคม].